นิทานภาษาอังกฤษ การอ่านหนังสือนิทานให้ลูกฟังเป็นกิจกรรมที่ทุกบ้านสามารถทำได้ง่ายเพียงแค่มีหนังสือนิทานอย่างน้อยหนึ่งเล่ม และถ้าให้เปรียบเทียบก็เหมือนกับผู้ปกครองคือพาหนะที่จะพาเหล่าเด็ก ๆ โลดแล่นไปสู่ดินแดนแห่งจินตนาการที่ไร้จุดสิ้นสุด ซึ่งโลกที่ว่านั่นก็คือดินแดนแห่งนิทานนั่นเองค่ะ สิ่งหนึ่งที่ต้องทราบก่อนคร่าว ๆ เลยคือ นิทานบนโลกนี้มีอยู่มากมายหลายล้านเรื่อง แตกต่างกันไปตามแต่ละประเภทและภาษา ซึ่งนอกเหนือจากภาษาไทยแล้ว อีกหนึ่งภาษาที่คุณพ่อคุณแม่ยุคใหม่นิยมฝึกให้เด็ก ๆ
เรียนรู้กันมากที่สุดก็คือ ภาษาอังกฤษนั่นเอง เพราะเป็นภาษาสากลที่ใช้เป็นสื่อกลางกันทั่วโลก ซึ่งการที่ผู้ปกครองส่งเสริมให้เด็ก ๆ เรียนรู้ภาษาอังกฤษตั้งแต่วัยเยาว์นั้นจะเป็นสิ่งสำคัญที่มีประโยชน์ต่อโอกาสทางอนาคตของเด็ก ๆ อย่างแน่นอนค่ะบทความนี้เราจึงจะมาช่วยคุณพ่อคุณแม่ส่งเสริมการพัฒนาทักษะภาษาอังกฤษของเด็ก ๆ กัน โดยเราจะมาแนะนำ 10 อันดับ หนังสือนิทานภาษาอังกฤษยอดนิยม พร้อมทั้งประโยชน์และวิธีการเลือกซื้อนิทานภาษาอังกฤษ เพื่อเป็นแนวทางให้กับคุณผู้ปกครองที่มองหานิทานภาษาอังกฤษสักเล่มให้กับเหล่าบุตรหลาน ถ้าพร้อมแล้ว เราไปดูกันเลยค่ะ
ประโยชน์ของการอ่าน นิทานภาษาอังกฤษ
นิทานภาษาอังกฤษ หนังสือนิทานเป็นหนึ่งในสื่อส่งเสริมการเรียนรู้ยอดฮิตที่มีกันแทบทุกครัวเรือน ซึ่งผู้ปกครองมักนิยมอ่านนิทานให้ลูก ๆ ฟังก่อนนอนหรือในยามว่าง ซึ่งนอกจากจะเป็นการพัฒนาความคิด อุปนิสัยและสติปัญญาของเด็กแล้ว ยังช่วยให้เด็กได้เพลิดเพลินและเป็นการส่งเสริมนิสัยรักการอ่านด้วยค่ะ ยิ่งไปกว่านั้น การอ่านหนังสือนิทานร่วมกันภายในครอบครัวยังถือเป็นการสร้างความผูกพันระหว่างพ่อแม่และลูก ๆ เช่นกัน เรียกได้ว่ายิงปืนนัดเดียวได้นกสองตัวเลยค่ะอย่างไรก็ตาม ในปัจจุบันภาษาอังกฤษเข้ามามีบทบาทมากขึ้นในหลาย ๆ ประเทศ กลายเป็นสื่อกลางในการติดต่อสื่อสารสากล กล่าวได้ว่าใครที่สามารถพูดภาษาอังกฤษได้นี่มีชัยไปกว่าครึ่งเลยทีเดียว ดังนั้น เพื่อเตรียมความพร้อมและสร้างความคุ้นเคยกับภาษาให้กับลูก ๆ ก่อนที่พวกเขาจะได้เข้าไปเผชิญในสังคมโลก จึงมีผู้ปกครองบางส่วนเริ่มหันมาสนใจเลือกซื้อหนังสือนิทานภาษาอังกฤษกันมากขึ้นค่ะ
วิธีการเลือกนิทานภาษาอังกฤษ
เนื่องจากหนังสือนิทานภาษาอังกฤษเป็นสื่อการเรียนรู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับพัฒนาการของตัวเด็กโดยตรง ดังนั้น จึงต้องใส่ใจในการเลือกมากเป็นพิเศษ เราลองมาดูวิธีการเลือกนิทานภาษาอังกฤษที่ดีและเหมาะสมกับเด็ก ๆ กันเลยค่ะ
1.เลือกนิทานให้เหมาะกับช่วงวัย
นิทานแต่ละเรื่องมีเนื้อหาแตกต่างกัน โดยส่วนใหญ่แล้วผู้แต่งมักให้ความสำคัญกับกลุ่มเป้าหมายที่รับสารซึ่งก็คือตัวเด็ก ๆ นั่นเองค่ะ เพราะเด็กเป็นวัยที่เติบโตขึ้นทุกวัน มีพัฒนาการตลอดเวลา ดังนั้น การเลือกหนังสือนิทานให้เหมาะสมกับช่วงวัยของเด็กเป็นสิ่งที่ต้องคำนึงถึงเป็นอันดับแรกเลยค่ะ
ช่วงวัย 0 – 1 ปี
เด็กในวัยนี้จะมองหาของเล่นหรืออะไรสักอย่างที่ให้พวกเขาได้หยิบจับได้ ซึ่งหนังสือนิทานก็ถูกจัดอยู่ในสิ่งของหมวดนี้ในสายตาของพวกเขา และสิ่งหนึ่งที่เด็กในวัยนี้จะให้ความสำคัญมาก ๆ ระหว่างการดูหนังสือนิทานคือภาพประกอบ เพราะเป็นวัยที่เริ่มมีพัฒนาการด้านการมองเห็นมากขึ้น ดังนั้น หนังสือนิทานที่เหมาะกับเด็กวัยนี้คือหนังสือนิทานที่มีภาพประกอบใหญ่ ชัดเจน มีสีสันสดใส และยังไม่จำเป็นตัวมีตัวหนังสือค่ะ การที่ให้เด็ก ๆ ได้ดูภาพไปเรื่อย ๆ โดยมีผู้ปกครองคอยชี้อธิบายว่าแต่ละอย่างเรียกว่าอะไร คืออะไร จะทำให้พวกเขาได้เรียนรู้คำศัพท์ใหม่ ๆ ไปพร้อม ๆ กับรูปร่างหน้าตาของสิ่งนั้น ๆ
ช่วงวัย 2 – 3 ปี
เมื่อค่อย ๆ เติบโตขึ้นและเริ่มรู้ว่าอะไรเป็นอะไร เด็กในวัยนี้จะเริ่มมีพัฒนาการทางด้านภาษามากขึ้นค่ะ ดังนั้น หนังสือนิทานที่เหมาะกับเด็ก ๆ วัยนี้คือหนังสือนิทานที่มีตัวหนังสือพร้อมภาพประกอบ มีเนื้อเรื่องสั้น ๆ ที่ไม่ซับซ้อน อาจจะเป็นเรื่องที่เกี่ยวกับสัตว์ สิ่งของ เรื่องรอบตัว หรือชีวิตประจำวัน ช่วงวัยนี้คุณพ่อคุณแม่ควรเริ่มสังเกตความชอบของลูกแล้วนะคะว่าลูกชอบเรื่องราวแนวไหน และหาหนังสือนิทานแนวนั้นมาอ่านให้ลูกฟังบ่อย ๆ ค่ะ การทำแบบนี้จะเป็นประโยชน์ต่อพัฒนาการของเด็กและเป็นการส่งเสริมนิสัยรักการอ่านให้กับเด็ก ๆ ด้วยค่ะ
ช่วงวัย 4 – 6 ปี
เด็กวัยนี้เริ่มมีจินตนาการและความคิดสร้างสรรค์มากขึ้น เริ่มทำความเข้าใจและแยกความแตกต่างระหว่างความจริงและจินตนาการได้ค่ะ นิทานที่เหมาะกับเด็กวัยนี้คือนิทานที่มีเนื้อเรื่องที่ยาวมากขึ้น แต่ยังคงเข้าใจง่ายอยู่ ตัวหนังสือและภาพประกอบชัดเจน แนวเรื่องที่เพิ่มเข้ามาอาจจะเป็นเรื่องของโลกแห่งจินตนาการ เช่น เจ้าชาย เจ้าหญิง อัศวิน มังกร ฯลฯ อาจจะมีการแฝงคุณธรรมหรือข้อคิดง่าย ๆ เพื่อให้เด็กได้คิดตาม อย่างเช่น สอนว่าทำดีได้ดี ทำชั่วได้ชั่ว หรือสอนให้อย่าขโมยของ เป็นต้น
ช่วงวัย 7 – 10 ปี
เด็กในวัยนี้เป็นวัยที่เริ่มเข้าเรียนชั้นประถมศึกษาแล้ว ทำให้พัฒนาการทางด้านภาษาและตรรกะเพิ่มขึ้นอย่างมาก สามารถคิดวิเคราะห์เป็นเหตุเป็นผลมากขึ้น และเปิดรับข้อมูลที่ซับซ้อนได้ ยิ่งไปกว่านั้น ยังเป็นวัยที่เริ่มเข้าใจตัวเอง รู้ว่าตัวเองชอบอะไร ไม่ชอบอะไร ดังนั้น ผู้ปกครองของเด็กในวัยนี้ควรให้เด็กมีส่วนร่วมในการเลือกหนังสือนิทานด้วยค่ะ โดยนิทานที่เหมาะกับเด็กวัยนี้คือ นิทานเรื่องยาวที่แบ่งเป็นตอน ๆ และมีหมวดหมู่ให้เลือกมากขึ้น อาจเป็นเรื่องราวเกี่ยวกับการผจญภัย วิทยาศาสตร์ ประวัติศาสตร์ หรือแม้กระทั่งการสืบสวนสอบสวนค่ะ นิทานภาษาอังกฤษ